วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

หงส์พลาดนำ 2-0 โดนปืนฮึดสู้ไล่เจ๊าสุดมัน 2-2

ทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ปล่อยโอกาสทองหลุดลอยไปเมื่อขึ้นนำ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ก่อน 2-0 แต่สุดท้ายโดนไล่ตามตีเสมอทัน 2-2 ก่อนที่จะเจ๊ากันไปแบบสุดมัน

ทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ปล่อยโอกาสทองหลุดลอยไปเมื่อขึ้นนำ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ก่อน 2-0 แต่สุดท้ายโดนไล่ตามตีเสมอทัน 2-2 ก่อนที่จะเจ๊ากันไปแบบสุดมัน

 

ผลบอลพรีเมียร์ลีก (30 ม.ค.56)

ทีมอาร์เซนอล 2-2 ทีมลิเวอร์พูล
สนาม: เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

คู่บิ๊กแมตช์ส่งท้ายของเดือนแรกของปีเป็นเกมที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมระหว่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล รับการมาเยือนของทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล โดยเจ้าบ้านส่งโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่กำลังฮอตยืนกองหน้าตัวเป้าและมี ธีโอ วัลค็อตต์, ลูคัส โพดอลสกี้ และซานติ กาซอร์ล่า คอยทำเกมให้ และได้กัปตันโธมัส แฟร์มาเลน คัมแบ็กด้วย ขณะที่ทีมเยือนซึ่งช็อกจากการแพ้โอลด์แฮม ตกรอบศึกเอฟเอ คัพ ปรับทัพ 7 ตำแหน่งเรียกตัวหลักอย่าง เปเป้ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, ลูคัส, สตีเว่น เจอร์ราร์ด คัม ฯลฯ คัมแบ็กกลับมาอีกครั้ง

เกมเปิดฉากมาได้แค่ 5 นาที ลิเวอร์พูล ชิงจังหวะได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ซัดไปติดเซฟของวอยเซียค เชสนี่ ซึ่งบอลมาเข้าทาง หลุยส์ ซัวเรซ จบสกอร์เข้าไป เป็นประตูนำ 1-0 สำหรับทีมเยือน และเป็นประตูที่ 9 จาก 9 นัดของซัวเรซด้วย

เจ้าบ้านสวนกลับทันที แจ็ค วิลเชียร์ จ่ายฉีกแนวรับลิเวอร์พูล ให้ธีโอ วัลค็อตต์ แซงหน้าเจมี่ คาร์ราเกอร์ ซึ่งได้ลงสนามแทน มาร์ติน สเคอร์เทล แต่จังหวะสุดท้ายยังซัดไปติดเซฟของ เปเป้ เรน่า ที่ดักเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

จากนั้น ทีมลิเวอร์พูล ยังดูน่ากลัวกว่าและน่าจะได้ประตูอีกถึง 2 ครั้ง โดยจังหวะแรกเป็นการสวนกลับ ซัวเรซ จ่ายปั่นไซด์ก้อยฉีกแนวรับทั้งแผงให้ สเตอร์ริดจ์ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ เชสนี่ แต่ว่าวอลเล่ย์ด้วยขวาออกไปเยอะ อีกจังหวะ อาร์เซนอล ส่งกันไปมาหน้าเขตโทษ สุดท้ายเชสนี่ พยายามหลอกสเตอร์ริดจ์ แต่ไม่พ้นเกือบโดนฉกได้ดีที่เขี่ยทิ้งออกไปทัน และสุดท้ายสเตอร์ริดจ์ ทำพลาดเอง

ทีมอาร์เซนอล ค่อยๆเริ่มตั้งเกมกลับมาและได้โอกาสดีในนาทีที่ 17 จากจังหวะเตะมุมที่บุกต่อเนื่อง และเป็น วัลค็อตต์ ที่ได้ลองปั่นอีกครั้งในเขตโทษแต่ว่าเรน่า ยังซูเปอร์เซฟบินปัดบอลออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม

เกมเป็นทางเจ้าบ้านที่เริ่มเปิดฉากยิงบดหนักขึ้นเรื่อยๆ และมีโอกาสบุกหวาดเสียวอีกหลายครั้งแต่ลิเวอร์พูล ยังเอาตัวรอดได้ตลอด

ขณะเดียวกันทีมหงส์แดงยังมีลุ้นเพราะเกมรับที่อ่อนปวกเปียกของเจ้าบ้าน นาทีที่ 26 เกือบได้ประตูที่ 2 จากลูกเตะมุม เจอร์ราร์ด เปิดเข้ามาให้ แอกเกอร์ ขึ้นโขกกดลงพื้นตัดหน้าเชสนี่ได้แล้ว แต่ว่ายังมี โพดอลสกี้ ที่คุมเส้นเคลียร์ออกมาได้หวุดหวิด

ถัดมาการต่อบอลของทีมลิเวอร์พูล ทำได้สวยโดยเป็น สเตอร์ริดจ์ แทงเข้าเขตโทษให้ เฮนเดอร์สัน ก่อนจิ้มต่อให้ ซัวเรซ ได้ซัดระยะ 10 หลาแต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น

ทีมอาร์เซนอล ยังเสีย คีแรน กิ๊บบ์ส ที่บาดเจ็บด้วยทำให้ต้องเปลี่ยนเอา อังเดร ซานโต้ส ลงสนามแทน ส่วนโอกาสลุ้นประตูหายากเพราะเกมไม่ต่อเนื่อง แต่ได้ลุ้นในนาทีที่ 39 ในจังหวะเซ็ตบอลขึ้นมาต่อเนื่องแล้วเป็น วัลค็อตต์ เปิดให้ ชิรูด์ โหม่งคนเดียวแต่บอลตรงตัวเรน่า

ก่อนหมดครึ่งแรกเหลือเพียง 2 นาที ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูที่ 2 อีกครั้งในเกมสวนกลับ ดาวนิ่ง กระชากมากลางสนามก่อนแทงทะลุช่องให้ เฮนเดอร์สัน สอดทะลุขึ้นไปได้สวย ก่อนเกี่ยวบอลหนี เชสนี่ ที่พยายามออกมาปิดมุมแล้วเลือกจะชิพกะเข้าเสาไกลแต่ว่าข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่เกมจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-0

กลับมาลงสนามใหม่ในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล มีโอกาสอีกจากการประสานงานกันระหว่าง ซัวเรซ และสเตอร์ริดจ์ ก่อนที่จะเป็นหัวหอกน้องใหม่ที่ได้ยิงอีกครั้งในเขตโทษแต่ซัดด้วยขวาแป้กไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้น ทีมอาร์เซนอล เร่งเกมขึ้นมาโดยพยายามจ่ายบอลเร็วขึ้น ซึ่งได้ผลสร้างความปั่นป่วนได้ไม่น้อย และนาทีที่ 53 โพดอลสกี้ มีจังหวะเปิดเข้ามาให้ วัลค็อตต์ สอดขึ้นมาโหม่งที่เสาไกลข้ามคานออกไป

แต่ขณะที่ทีมอาร์เซนอล บุกถล่มอยู่ดีๆก็มาโดนทีเด็ดของลิเวอร์พูล ยิงหนีเป็น 2-0 ในจังหวะที่ได้บอลจากสเตอร์ริดจ์ ก่อนลากจี้แนวรับแล้วล็อกหนี แพร์ แมร์แตซัคเกอร์ กับอังเดร ซานโต้ส ก่อนจะหลุดเข้าเขตโทษแล้วจิ้มจังหวะแรกติดเชสนี่ แต่บอลยังเด้งมาเข้าทางซ้ำดาบสองเข้าไปในนาทีที่ 59

ทีมอาร์เซนอล อยู่เฉยไม่ได้แล้ว นาทีที่ 61 เกือบตีตื้นได้เมื่อ โพดอลสกี้ ฝากบอลกับชิรูด์ ก่อนที่ชิรูด์ จะจ่ายคืนมาให้โพลดี้ ยิงเร็วบอลพุ่งน่ากลัวแต่ถากเสาออกไป

แต่นาทีที่ 64 อาร์เซนอลเป็นฝ่ายไล่ตามมาเป็น 2-1 จากฟรีคิกคราวนี้เป็น วิลเชียร์ เปิดเข้ามาเสาไกลถึง ชิรูด์ ขึ้นโขกคนเดียวเหน่งๆกดลงพื้นเข้าไปเป็นประตูปลุกขวัญเจ้าบ้านๆ

และอีก 2 นาทีถัดมา กันเนอร์ส ก็ทำประตีเสมอได้สำเร็จอย่างรวดเร็วโดยเป็นจังหวะที่ กาซอร์ล่า ตามช่องเข้าเขตโทษก่อนแปะให้ วัลค็อตต์ หวดตูมเดียวเสียบเสาไกลชนิดที่ เรน่า หมดสิทธิ์ ด้วยประการทั้งปวง สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2 แล้ว

นาทีที่ 69 วัลค็อตต์ เกือบแผลงฤทธิ์อีกครั้งคราวนี้ลากตัดจากขวาเข้ามาก่อนจะปั่นด้วยซ้ายบอลเฉี่ยวออกไปชนิดเสาแทบไหม้

หลังจากนั้นลิเวอร์พูล ส่งโฆเซ่ เอ็นริเก้ ที่หายเจ็บลงมาแทน สเตอร์ริดจ์ที่มีอาการบาดเจ็บ เพื่อช่วยเบรกความร้อนแรงของวัลค็อตต์ ซึ่งได้ผลอยู่บ้างแต่เจ้าบ้านยังมีโอกาสได้เสียวอีกจากจังหวะการ

โหม่งของ แมร์แตซัคเกอร์ และจังหวะที่ กาซอร์ล่า หลุดไปยิงในเขตโทษเฉี่ยวเสาไกลออกไป นาทีที่ 82 ลิเวอร์พูล ได้เตะมุม แอกเกอร์ ขึ้นโขกกดไม่ลงทำให้พลาดไปก่อนโดนสวนกลับมาเร็ว เป็น ชิรูด์ ที่ได้ซัดจังหวะสุดท้ายแต่ติดเซฟของเรน่า ที่ซูเปอร์เซฟปัดได้หวุดหวิด และจังหวะต่อเนื่องกันเตะมุมเข้ามา ชิรูด์ ก็ยังได้โขกข้ามคานออกไปอีก

เกมเปิดฉากแลกกันสุดๆ และอาร์เซนอล ก็น่าได้ประตูแซงนำอย่างยิ่งในจังหวะเซ็ตบอลเข้าเขตโทษ ชิรูด์ ป้ายออกให้ โพดอลสกี้ ก่อนที่โพลดี้ จะตบกลับมาให้ชิรูด์ เข้าฮอสแต่กลับแปวืดอย่างน่าเสียดาย ขณะที่ลิเวอร์พูล นานๆสวนทีแต่ได้ลุ้นในจังหวะที่ ซัวเรซ ได้ตั้งป้อมยิงหน้าเขตโทษแต่หลุดกรอบออกไป

แตในช่วงท้ายเกมหงส์แดงกลับมาเป็นฝ่ายได้เสียวมากกว่าโดยเกือบได้เฮในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายจากซัวเรซ ที่ได้หลุดไปซัดในเขตโทษแต่ติดเซฟของเชสนี่ ก่อนปลิ้นออกไปนิดเดียว สุดท้ายเกมจบลงด้วยการเสมอแบบสุดมัน ผลบอล 2-2

Share this:
Share this page via Email Share this page via Stumble Upon Share this page via Digg this Share this page via Facebook Share this page via Twitter

หงส์พลาดนำ 2-0 โดนปืนฮึดสู้ไล่เจ๊าสุดมัน 2-2

ราฟาอกแตก! สิงห์นำ 2 ลูกโดนทีเด็ดเร้ดดิ้งตีเจ๊า 2-2 ท้ายเกม

ราฟา แทบอกแตกตาย! หลังเห็นอดัม เดอ ฟองเดร ลงมาเป็นซูเปอร์ซับไล่ตีเสมอให้ เร้ดดิ้ง ตีเจ๊า “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่เล่นดีและออกนำไปก่อนแบบน่าชนะสบายๆ 2-0 สุดท้ายจบที่ 2-2

ราฟา แทบอกแตกตาย! หลังเห็นอดัม เดอ ฟองเดร ลงมาเป็นซูเปอร์ซับไล่ตีเสมอให้ เร้ดดิ้ง ตีเจ๊า “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่เล่นดีและออกนำไปก่อนแบบน่าชนะสบายๆ 2-0 สุดท้ายจบที่ 2-2

ผลบอลพรีเมียร์ลีก

ทีมเรดดิ้ง 2-2 ทีมเชลซี
สนาม: มาเดจสกี้ สเตเดี้ยม

“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี สิงบลูลงสนามในสภาพกดดันหลังผลงานระยะหลังเริ่มย่ำแย่อีกครั้ง โดยเกมนี้ ราฟาเอล เบนิเตซ ดร็อป จอห์น เทอร์รี่ เป็นตัวสำรองรวมถึงเดมบ้า บา ด้วยโดยมี เฟร์นานโด ตอร์เรส ยืนค้ำแนวรุกเหมือนเดิม

และเกมของเชลซี ก็เป็นดูเหมือนเดิมคือแม้จะครองบอลมากกว่าเจ้าบ้านแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของแฟนบอลเชลซี ที่ตะโกนเรียกชื่อของ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ เป็นการขับไล่ ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน

โอกาสลุ้นแบบจริงๆจังๆครั้งแรกสำหรับเชลซี มาในนาทีที่ 26 จากจังหวะที่ มิเคเล เลช์เกอร์วูด พลาดเสียบอลตรงกลางสนามทำให้ ตอร์เรส ได้สวนกลับและเลือกจะจ่ายให้ ฆวน มาตา แต่ว่าหลังเรดดิ้ง ยังตามมาบล็อกได้ทันท่วงที

จากนั้นเชลซี เกือบได้ประตูอีกครั้งโดยเป็นฟรีคิก แฟรงค์ แลมพาร์ด เปิดเข้าไปในเขตโทษถึงแกรี่ เคฮิลล์ ได้โขกเหนงๆแต่ข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดายสุดๆ

และหลังจากที่ครองเกมบุกอยู่นานพอสมควร เชลซี มาได้ประตูนำจนได้ 1-0 ในนาทีที่ 45 โดยเป็นตอร์เรส ที่ได้บอลริมเส้นก่อนกระชากเข้าเขตโทษแล้วจ่ายเข้ามาให้ มาตา ยิงด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเฉียบขาด และทำให้ทีมจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นำ

ครึ่งหลังเกมของเจ้าบ้านยังแป้กสนิทยังไม่สามารถทำประตูได้ ขณะที่ทีมเยือนเมามันกับการซ้อมเกมรุก และเกือบได้ประตูหนีออกไปจากจังหวะที่ แลมพาร์ด วางบอลให้ ออสการ์ พักอกเอาบอลลงในเขตโทษก่อนจะกระโดดวอลเล่ย์หลุดออกไปนิดเดียวเท่านั้น

มาถึงนาทีที่ 66 เชลซี หนีเป็น 2-0 ได้สำเร็จจากลูกยิง แลมพาร์ด ที่โขกลูกเตะมุมเข้าไป ซึ่งช่วงหลังจากนั้นเกมยังเป็นของทีมเยือนเป็นส่วนใหญ่

แต่ก่อนหมดเวลาอีก 3 นาที เรดดิ้ง ไล่ตามมาเป็น 2-1 อดัม เลอ ฟองเดร ที่ได้บอลจ่ายจากโฮป อัคพัน ก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าไป ปลุกความหวังให้กับทีมเจ้าบ้านที่เหี่ยวมาตลอดเกม

และสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเมื่อ เร้ดดิ้ง ยิงประตูได้สำเร็จไล่ตีเสมอสำเร็จเป็น 2-2 จากฮีโร่ซูเปอร์ซับเจ้าเก่าอย่าง อดัม เลอ ฟองเดร ที่ได้ซัดเสยตาข่ายเข้าไปอย่างสุดสะใจ สุดท้ายเกมจบลงด้วยการเสมอกันไปแบบนักเตะเชลซี แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ผลบอลพรีเมียร์ลีก

Share this:
Share this page via Email Share this page via Stumble Upon Share this page via Digg this Share this page via Facebook Share this page via Twitter

ราฟาอกแตก! สิงห์นำ 2 ลูกโดนทีเด็ดเร้ดดิ้งตีเจ๊า 2-2 ท้ายเกม

ผีฟรอมตกแต่ยังเฉือนนักบุญ 2-1 ไปอย่างหวุดหวิด

ทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีอาการล้าและแผ่วให้เห็นแต่ยังอาศัยความเก๋าและความเฉียบคมไล่ยิงแซงเอาชนะ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ไปแบบนิ่มๆ 2-1

ทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีอาการล้าและแผ่วให้เห็นแต่ยังอาศัยความเก๋าและความเฉียบคมไล่ยิงแซงเอาชนะ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ไปแบบนิ่มๆ 2-1

ผลบบอลพรีเมียร์ลีก (30 ม.ค.56)

ทีมแมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ทีมเซาแธมป์ตัน
สนาม: โอลด์ แทรฟฟอร์ด

“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจอมโหด จ่าฝูงมีโอกาสโกยแต้มหนีแมนฯ ซิตี้ ที่พลาดเสมอเมื่อคืนนี้ออกไปเมื่อได้รับมือทีมรองบ่อนอย่าง “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน โดยเกมนี้โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กลับมานำขบวนแนวรุกพร้อมกับ เวย์น รูนี่ย์ และแดนนี่ เวลเบ็ค

แต่กลับเป็นทีมเยือนที่ฉวยจังหวะทำประตูออกนำไปก่อนในนาทีที่ 3 จากจังหวะที่ ไมเคิล คาร์ริค จ่ายคืนหลังให้ ดาวิด เด เคอา แต่ดันมัวแต่เงอะงะสุดท้ายโดน เจย์ โรดริเกวซ เข้าชาร์จก่อนที่บอลจะเข้าประตูไปอย่างมึนๆ ทีมเยือนนำ 1-0

แต่ขึ้นชื่อว่าผีแดงไม่ทำให้แฟนๆผิดหวังอย่างแน่นอน นาทีที่ 8 เวย์น รูนี่ย์ ก็ยิงประตูตีเสมอให้ทีมได้สำเร็จ จากจังหวะการจ่ายบอลเนียนๆของ ชินจิ คางาวะ ก่อนที่จะทำให้ รูนี่ย์ ได้หลุดเข้าเขตโทษแล้วยิงเข้าไปแบบนิ่มๆ สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1

แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบแซงนำทันทีเมื่อ รูนี่ย์ ได้บอลก่อนจะจ่ายให้กับ คางาวะ ซัดไปชนคานอย่างจัง ส่วนรูปเกมทั้งสองทีมเปิดฉากแลกกันอ่างสนุกสนาน

แต่ความคมของเจ้าบ้านที่เหนือกว่าจึงทำให้ได้ประตูแซงเป็น 2-1 ในที่สุด จากลูกฟรีคิก ฟาน เพอร์ซี่ เปิดเข้ามาให้ ปาทริซ เอวร่า โขกชงมาให้ รูนี่ย์ จบสกอร์เข้าไปอย่างสบายๆในนาทีที่ 27 ก่อนที่เกมจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเกมของแมนฯ ยูไนเต็ด เนือยลงไปอย่างเห็นได้ชัดสวนทางกับทีมเยือนที่เริ่มดูมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีจังหวะลุ้นอะไรกันมากนัก

จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงเวลาของท้ายเกมมีโอกาสที่จะได้ทั้งสองทีมโดยทีแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้ก่อนจากการโหม่งของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่ว่าผู้ตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน จากนั้นริคกี้ แลมเบิร์ต ซัดฟรีคิกให้ เด เคอา ต้องออกแรงเซฟอย่างหวุดหวิด

จากนั้นเดอะ เซนต์ ยังลุยต่อและมอร์แกน ชไนเดอร์ลิน ยิงจากระยะ 25 หลาบอลพุ่งหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น แต่สุดท้ายก็ไล่ไม่ทันจบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือนเอาชนะไปอย่างหวุดหวิด 2-1

ผลบอล 2-1

Share this:
Share this page via Email Share this page via Stumble Upon Share this page via Digg this Share this page via Facebook Share this page via Twitter

ผีฟรอมตกแต่ยังเฉือนนักบุญ 2-1 ไปอย่างหวุดหวิด

Test Post from �ล�อล อั�����ุ�วั��ลอ�24�ั�ว�ม�

Test Post from ผลบอล อัพเดตทุกวันตลอด24ชั่วโมง http://www.welovescore.com

วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

www.welovescore.com
ติดตามข่าวสารและอัพเดตการวิเคราะห์ผลบอลต่างๆๆได้ ไม่ว่าจะเป็น ผลบอลวันนี้ และผลบอลสด

ผีทุ่ม500ล้านดึงเบนส์อุดรั่ว
สโมสร"ปีศาจเเดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินหน้าทุ่ม 10 ล้านปอนด์ (ราว 500 ล้านบาท)เพื่อลองใจ"ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน"เอฟเวอร์ตัน ทีมร่วมลีก ให้ปล่อย เลย์ตัน เบนส์ แบ็กซ้ายตัวเก่งที่มีค่าฉีกสัญญา 15 ล้านปอนด์(ราว 750 ล้านบาท)เข้าเสริมทัพ 

   "เดลี เมล"สื่อชื่อดังจากเกาะอังกฤษ เผย!"ปีศาจเเดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำเเห่งศึกลูกหนังพรีเมียร์ ลีก ทุ่มงบ 10 ล้านปอนด์ (ราว 500 ล้านบาท)เพื่อใช้ลองใจ"ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน"เอฟเวอร์ตัน ทีมคู่เเข่งร่วม ลีก ให้ปล่อย เลย์ตัน เบนส์ แบ็กซ้ายตัวเก่ง ย้ายข้ามมาเล่นยังถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงซัมเมอร์นี้ 

   จากกการที่ ปาทริซ เอวร่า แบ็กซ้ายคนสำคัญอายุเริ่มมากขึ้น ประกอบกับเเข้งตัวสำรองอย่าง ฟาบิโอ ดา ซิลวา ก็ปล่อยให้ ควีนปาร์ค เรนเจอร์ส ยืมตัวไปใช้งาน จึงทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือเเมนฯ ยูไนเต็ดเล็งไปคว้า เลย์ตัน เบนส์ แบ็กซ้ายดีกรีทีมชาติอังกฤษเข้าเสริมทัพ 

   เเม้ เอฟเวอร์ตัน จะตั้งค่าตัว เบนส์ สูงถึง 15 ล้านปอนด์(ราว 750 ล้านบาท)แต่ บรมกุนซือเเมนฯ ยูไนเต็ด ก็เชื่อว่างบประมาณดังกล่าวจะสามารถดึง เเข้งเลือดผู้ดีวัย 27 ปีได้






com * welovescore * welovescore com * ผลบอลพรีเมียร์ลีก * ผลบอลวันนี้ * ผลบอลสด * สเปน * อังกฤษ * เยอรมัน *