วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

หงส์พลาดนำ 2-0 โดนปืนฮึดสู้ไล่เจ๊าสุดมัน 2-2

ทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ปล่อยโอกาสทองหลุดลอยไปเมื่อขึ้นนำ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ก่อน 2-0 แต่สุดท้ายโดนไล่ตามตีเสมอทัน 2-2 ก่อนที่จะเจ๊ากันไปแบบสุดมัน

ทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ปล่อยโอกาสทองหลุดลอยไปเมื่อขึ้นนำ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ก่อน 2-0 แต่สุดท้ายโดนไล่ตามตีเสมอทัน 2-2 ก่อนที่จะเจ๊ากันไปแบบสุดมัน

 

ผลบอลพรีเมียร์ลีก (30 ม.ค.56)

ทีมอาร์เซนอล 2-2 ทีมลิเวอร์พูล
สนาม: เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

คู่บิ๊กแมตช์ส่งท้ายของเดือนแรกของปีเป็นเกมที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมระหว่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล รับการมาเยือนของทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล โดยเจ้าบ้านส่งโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่กำลังฮอตยืนกองหน้าตัวเป้าและมี ธีโอ วัลค็อตต์, ลูคัส โพดอลสกี้ และซานติ กาซอร์ล่า คอยทำเกมให้ และได้กัปตันโธมัส แฟร์มาเลน คัมแบ็กด้วย ขณะที่ทีมเยือนซึ่งช็อกจากการแพ้โอลด์แฮม ตกรอบศึกเอฟเอ คัพ ปรับทัพ 7 ตำแหน่งเรียกตัวหลักอย่าง เปเป้ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, ลูคัส, สตีเว่น เจอร์ราร์ด คัม ฯลฯ คัมแบ็กกลับมาอีกครั้ง

เกมเปิดฉากมาได้แค่ 5 นาที ลิเวอร์พูล ชิงจังหวะได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ซัดไปติดเซฟของวอยเซียค เชสนี่ ซึ่งบอลมาเข้าทาง หลุยส์ ซัวเรซ จบสกอร์เข้าไป เป็นประตูนำ 1-0 สำหรับทีมเยือน และเป็นประตูที่ 9 จาก 9 นัดของซัวเรซด้วย

เจ้าบ้านสวนกลับทันที แจ็ค วิลเชียร์ จ่ายฉีกแนวรับลิเวอร์พูล ให้ธีโอ วัลค็อตต์ แซงหน้าเจมี่ คาร์ราเกอร์ ซึ่งได้ลงสนามแทน มาร์ติน สเคอร์เทล แต่จังหวะสุดท้ายยังซัดไปติดเซฟของ เปเป้ เรน่า ที่ดักเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

จากนั้น ทีมลิเวอร์พูล ยังดูน่ากลัวกว่าและน่าจะได้ประตูอีกถึง 2 ครั้ง โดยจังหวะแรกเป็นการสวนกลับ ซัวเรซ จ่ายปั่นไซด์ก้อยฉีกแนวรับทั้งแผงให้ สเตอร์ริดจ์ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ เชสนี่ แต่ว่าวอลเล่ย์ด้วยขวาออกไปเยอะ อีกจังหวะ อาร์เซนอล ส่งกันไปมาหน้าเขตโทษ สุดท้ายเชสนี่ พยายามหลอกสเตอร์ริดจ์ แต่ไม่พ้นเกือบโดนฉกได้ดีที่เขี่ยทิ้งออกไปทัน และสุดท้ายสเตอร์ริดจ์ ทำพลาดเอง

ทีมอาร์เซนอล ค่อยๆเริ่มตั้งเกมกลับมาและได้โอกาสดีในนาทีที่ 17 จากจังหวะเตะมุมที่บุกต่อเนื่อง และเป็น วัลค็อตต์ ที่ได้ลองปั่นอีกครั้งในเขตโทษแต่ว่าเรน่า ยังซูเปอร์เซฟบินปัดบอลออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม

เกมเป็นทางเจ้าบ้านที่เริ่มเปิดฉากยิงบดหนักขึ้นเรื่อยๆ และมีโอกาสบุกหวาดเสียวอีกหลายครั้งแต่ลิเวอร์พูล ยังเอาตัวรอดได้ตลอด

ขณะเดียวกันทีมหงส์แดงยังมีลุ้นเพราะเกมรับที่อ่อนปวกเปียกของเจ้าบ้าน นาทีที่ 26 เกือบได้ประตูที่ 2 จากลูกเตะมุม เจอร์ราร์ด เปิดเข้ามาให้ แอกเกอร์ ขึ้นโขกกดลงพื้นตัดหน้าเชสนี่ได้แล้ว แต่ว่ายังมี โพดอลสกี้ ที่คุมเส้นเคลียร์ออกมาได้หวุดหวิด

ถัดมาการต่อบอลของทีมลิเวอร์พูล ทำได้สวยโดยเป็น สเตอร์ริดจ์ แทงเข้าเขตโทษให้ เฮนเดอร์สัน ก่อนจิ้มต่อให้ ซัวเรซ ได้ซัดระยะ 10 หลาแต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น

ทีมอาร์เซนอล ยังเสีย คีแรน กิ๊บบ์ส ที่บาดเจ็บด้วยทำให้ต้องเปลี่ยนเอา อังเดร ซานโต้ส ลงสนามแทน ส่วนโอกาสลุ้นประตูหายากเพราะเกมไม่ต่อเนื่อง แต่ได้ลุ้นในนาทีที่ 39 ในจังหวะเซ็ตบอลขึ้นมาต่อเนื่องแล้วเป็น วัลค็อตต์ เปิดให้ ชิรูด์ โหม่งคนเดียวแต่บอลตรงตัวเรน่า

ก่อนหมดครึ่งแรกเหลือเพียง 2 นาที ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูที่ 2 อีกครั้งในเกมสวนกลับ ดาวนิ่ง กระชากมากลางสนามก่อนแทงทะลุช่องให้ เฮนเดอร์สัน สอดทะลุขึ้นไปได้สวย ก่อนเกี่ยวบอลหนี เชสนี่ ที่พยายามออกมาปิดมุมแล้วเลือกจะชิพกะเข้าเสาไกลแต่ว่าข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่เกมจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-0

กลับมาลงสนามใหม่ในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล มีโอกาสอีกจากการประสานงานกันระหว่าง ซัวเรซ และสเตอร์ริดจ์ ก่อนที่จะเป็นหัวหอกน้องใหม่ที่ได้ยิงอีกครั้งในเขตโทษแต่ซัดด้วยขวาแป้กไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้น ทีมอาร์เซนอล เร่งเกมขึ้นมาโดยพยายามจ่ายบอลเร็วขึ้น ซึ่งได้ผลสร้างความปั่นป่วนได้ไม่น้อย และนาทีที่ 53 โพดอลสกี้ มีจังหวะเปิดเข้ามาให้ วัลค็อตต์ สอดขึ้นมาโหม่งที่เสาไกลข้ามคานออกไป

แต่ขณะที่ทีมอาร์เซนอล บุกถล่มอยู่ดีๆก็มาโดนทีเด็ดของลิเวอร์พูล ยิงหนีเป็น 2-0 ในจังหวะที่ได้บอลจากสเตอร์ริดจ์ ก่อนลากจี้แนวรับแล้วล็อกหนี แพร์ แมร์แตซัคเกอร์ กับอังเดร ซานโต้ส ก่อนจะหลุดเข้าเขตโทษแล้วจิ้มจังหวะแรกติดเชสนี่ แต่บอลยังเด้งมาเข้าทางซ้ำดาบสองเข้าไปในนาทีที่ 59

ทีมอาร์เซนอล อยู่เฉยไม่ได้แล้ว นาทีที่ 61 เกือบตีตื้นได้เมื่อ โพดอลสกี้ ฝากบอลกับชิรูด์ ก่อนที่ชิรูด์ จะจ่ายคืนมาให้โพลดี้ ยิงเร็วบอลพุ่งน่ากลัวแต่ถากเสาออกไป

แต่นาทีที่ 64 อาร์เซนอลเป็นฝ่ายไล่ตามมาเป็น 2-1 จากฟรีคิกคราวนี้เป็น วิลเชียร์ เปิดเข้ามาเสาไกลถึง ชิรูด์ ขึ้นโขกคนเดียวเหน่งๆกดลงพื้นเข้าไปเป็นประตูปลุกขวัญเจ้าบ้านๆ

และอีก 2 นาทีถัดมา กันเนอร์ส ก็ทำประตีเสมอได้สำเร็จอย่างรวดเร็วโดยเป็นจังหวะที่ กาซอร์ล่า ตามช่องเข้าเขตโทษก่อนแปะให้ วัลค็อตต์ หวดตูมเดียวเสียบเสาไกลชนิดที่ เรน่า หมดสิทธิ์ ด้วยประการทั้งปวง สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2 แล้ว

นาทีที่ 69 วัลค็อตต์ เกือบแผลงฤทธิ์อีกครั้งคราวนี้ลากตัดจากขวาเข้ามาก่อนจะปั่นด้วยซ้ายบอลเฉี่ยวออกไปชนิดเสาแทบไหม้

หลังจากนั้นลิเวอร์พูล ส่งโฆเซ่ เอ็นริเก้ ที่หายเจ็บลงมาแทน สเตอร์ริดจ์ที่มีอาการบาดเจ็บ เพื่อช่วยเบรกความร้อนแรงของวัลค็อตต์ ซึ่งได้ผลอยู่บ้างแต่เจ้าบ้านยังมีโอกาสได้เสียวอีกจากจังหวะการ

โหม่งของ แมร์แตซัคเกอร์ และจังหวะที่ กาซอร์ล่า หลุดไปยิงในเขตโทษเฉี่ยวเสาไกลออกไป นาทีที่ 82 ลิเวอร์พูล ได้เตะมุม แอกเกอร์ ขึ้นโขกกดไม่ลงทำให้พลาดไปก่อนโดนสวนกลับมาเร็ว เป็น ชิรูด์ ที่ได้ซัดจังหวะสุดท้ายแต่ติดเซฟของเรน่า ที่ซูเปอร์เซฟปัดได้หวุดหวิด และจังหวะต่อเนื่องกันเตะมุมเข้ามา ชิรูด์ ก็ยังได้โขกข้ามคานออกไปอีก

เกมเปิดฉากแลกกันสุดๆ และอาร์เซนอล ก็น่าได้ประตูแซงนำอย่างยิ่งในจังหวะเซ็ตบอลเข้าเขตโทษ ชิรูด์ ป้ายออกให้ โพดอลสกี้ ก่อนที่โพลดี้ จะตบกลับมาให้ชิรูด์ เข้าฮอสแต่กลับแปวืดอย่างน่าเสียดาย ขณะที่ลิเวอร์พูล นานๆสวนทีแต่ได้ลุ้นในจังหวะที่ ซัวเรซ ได้ตั้งป้อมยิงหน้าเขตโทษแต่หลุดกรอบออกไป

แตในช่วงท้ายเกมหงส์แดงกลับมาเป็นฝ่ายได้เสียวมากกว่าโดยเกือบได้เฮในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายจากซัวเรซ ที่ได้หลุดไปซัดในเขตโทษแต่ติดเซฟของเชสนี่ ก่อนปลิ้นออกไปนิดเดียว สุดท้ายเกมจบลงด้วยการเสมอแบบสุดมัน ผลบอล 2-2

Share this:
Share this page via Email Share this page via Stumble Upon Share this page via Digg this Share this page via Facebook Share this page via Twitter

หงส์พลาดนำ 2-0 โดนปืนฮึดสู้ไล่เจ๊าสุดมัน 2-2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น